หลายคนมีความสุขที่ได้รักใครซักคน หลายคนมีความสุขที่ได้สิ่งของหรือเงินทองตามที่ต้องการ ความสุขบางอย่างคุณสามารถใช้เงินซื้อมันมาได้ แต่ความสุขบางอย่างต่อให้มีเงินมากมายเพียงใดคุณก็ไม่สามารถซื้อหามันมาได้ บางคนมีความสุขมากมายที่ได้ดั่งใจตัวเองต้องการ บางคนมีความสุขมากมายที่ได้รักกับใครซักคน แต่น้อยคนนักที่จะมีความสุขกับการรักตัวเอง น้อยคนนักที่จะมีความสุขกับสิ่งที่ตัวเองได้ทำลงไปในแต่ละวัน ดังนั้นแล้ววันนี้ผมจึงอยากจะพาเพื่อนๆร่วมเดินทางไปด้วยกัน เพื่อค้นหาอัญมณีเม็ดงามที่ยากจะรักษาไว้ให้อยู่กับตัวเพราะเมื่อเราได้มันมาครอบครองมันก็รู้สึกว่าช่วงเวลาช่างผ่านไปไวเหลือเกิน และเมื่อเราเสียมันไปเราก็แสนทุกข์ทรมานใจ เพราะเหตุนี้จึงเป็นที่มาของตอนที่ชื่อว่า
" ความสุขอยู่หนใด? "
ผู้คนมากมายมีความสุขกับการได้รับ ในขณะที่มีแค่บางคนเท่านั้นที่มีความสุขในการเป็นผู้ให้ ผู้คนมากมายเอาความสุขของตัวเองไปฝากไว้กับคนอื่น ในขณะที่มีแค่บางคนเท่านั้นที่จะเก็บความสุขไว้กับตัวเอง คุณเคยรักใครซักคนซักคนแล้วต้องอกหักเสียใจมั้ยครับ? คุณเคยอยากได้อะไรมากๆแล้วไม่ได้มั้ยครับ? ใช่แล้วหร่ะครับ มันช่างเสียใจและทุกข์ทรมาน ราวกับว่าสิ่งที่สร้างที่ฝันกันมามันพังลงไปในพริบตา แล้วอะไรหร่ะคือความสุขที่แท้จริง? แล้วความสุขที่แท้จริงมันอยู่หนใด? ดังนั้นผมจึงมีนิทานเรื่องหนึ่งอยากจะเล่าให้ฟัง เป็นนิทานที่สามารถบอกคุณได้ว่าความสุขที่แท้จริงแล้วซ่อนอยู่หนใด
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเทพเจ้าองค์หนึ่งได้เก็บความสุขเอาไว้ที่สุดขอบโลก เป็นที่ๆซึ่งห่างไกลและยากที่จะไปถึง แต่เมื่อเหล่ามนุษย์ได้รู้ความลับนี้ต่างก็เดินทาง ต่อสู้ แย่งชิง และฆ่าฟันกัน เพื่อที่จะได้ความสุขมาครอบครอง ดังนั้นแล้วเทพเจ้าจึงปรึกษากันว่าจะทำอย่างไรที่จะสามารถซ่อนความสุขเอาไว้ไม่ให้คนที่ไม่คู่ควรได้ความสุขไปครอบครอง ดังนั้นแล้วเทพเจ้าจึงปรึกษากันว่าจะทำอย่างไรที่จะสามารถซ่อนความสุขไว้ไม่ให้คนที่ไม่คู่ควรได้มันไปครอบครอง ก็มีเทพองค์หนึ่งบอกว่า "ก็เอาไปซ่อนไว้บนยอดเขาที่สูงที่สุดในโลกสิ" เทพอีกองค์หนึ่งจงบอกว่า "ไม่ได้หรอกเพราะไม่ว่ายังไงก็จะมีมนุษย์ขึ้นไปจนถึงอยู่ดี" เทพอีกองค์หนึ่งจึงบอกว่า "ถ้าอย่างนั้นก็เอาไปซ่อนไว้ใต้ทะเลลึกซะสิ" เทพองค์เดิมก็ตอบว่า "ยังไงซะ มนุษย์ก็ยังมีความพยายามพอที่จะไปควานหาความสุขจนพบ แล้วพวกเราจะทำยังไงดีถึงจะเก็บความสุขนี้ไว้ให้กับคนที่คู่ควรได้" เมื่อเป็นดังนั้นแล้วเทพอีกองค์หนึ่งก็พูดออกมาว่า "เราคิดออกแล้ว!!! ในเมื่อเหล่ามนุษย์ต่อสู้ ฆ่าฟันกันเพื่อแย่งชิงความสุขมา เราก็เอาความสุขไปซ่อนไว้ในใจของมนุษย์ทุกๆคนซะเลยสิ"
ใช่แล้วหร่ะครับ!!! ความสุขที่แท้จริงแล้วมันซ่อนอยู่ในใจลึกๆของเราทุกคน และไม่ว่าเราจะรวยจะจนเราก็สามารถมีความสุขในแบบฉบับของเราได้ คุณเคยรู้สึกมั้ยว่าทำไมว่าเราเลิกกับแฟนคนเก่าแล้วเราได้พบเจอกับคนใหม่ชีวิตเราก็กลับมีความสุขขึ้นมากอีกครั้งและในบางครั้งมันมากขึ้นกว่าเดิมซะอีก ในบางครั้งเราผิดหวังกับบางสิ่งแต่เราไม่รู้สึกเสียใจ แต่กลับบางสิ่งเราเสียใจมาก นั่นก็เพราะคุณเอาความสุขไปขึ้นอยู่กับบางสิ่งบางอย่างหรือคนบางคนมากจนเกินไป คุณเอาความสุขไปขึ้นอยู่กับสิ่งที่คุณควบคุมไม่ได้มากจนเกินไป จนลืมไปแล้วว่ามีเพียงตัวคุณคนเดียวเท่านั้นที่คอยกำหนดความสุขนั้นขึ้นมา คุณเคยสงสัยบ้างมั้ยว่าทำไมเวลาที่คุณได้สิ่งใดอย่างที่ใจเราต้องการคุณช่างมีความสุข แต่พอเวลาผ่านไปความสุขความสุขของคุณเริ่มลดน้อยลงไปทุกที คุณเคยสงสัยบ้างมั้ยว่าทำไมเวลาคนรักของคุณบอกรักคุณแล้วคุณช่างมีความสุขเหลือเกิน แต่กลับพ่อแม่ที่เลี้ยงคุณมา พอท่านบอกรักคุณแต่คุณกลับรู้สึกเฉยๆ
นี่หร่ะครับคือเหตุผลว่าทำไมชีวิตของคุณถึงยังหาความสุขที่แท้จริงไม่เจอซักที นั่นก็เพราะคุณไม่ได้กำหนดหรือสร้างความสุขนั้นขึ้นมา แต่คุณกลับเอาความสุขของคุณไปฝากไว้กับคนอื่นหรือสิ่งของมากจนเกินไป จนกระทั่งคุณสูญเสียตัวตนของคุณเองไป จนกระทั่งเมื่อคุณผิดหวังหรือไม่ได้สมดั่งใจคุณก็เป็นทุกข์ขึ้นมา แล้วคุณก็ได้แต่มานั่งพร่ำเพ้อว่าเสียใจ ผิดหวัง และรู้สึกว่าชีวิตนี้น่าเศร้ายิ่งนัก แต่คุณคงจะลืมไปแล้วว่าถ้าใจของคุณพูดได้มันก็คงจะพูดว่า "ฉันนี่สิน่าเศร้ายิ่งกว่า ฉันอยู่กับเธอมานานแสนนานแต่เธอกลับไม่เห็นคุณค่าของฉัน ฉันคอยอยู่ปลอบใจเธอยามที่เธอโดเดี่ยวมาตั้งมากมายแต่สิ่งที่เธอทำให้กับฉันคือการเฉยเมยต่อฉัน" ฉนั้นแล้วจงรู้ไว้เถอะึครับว่าตัวของคุณ ใจของคุณ และจิตวิญญาณของคุณ นั้นมีค่ามากกว่าสิ่งอื่นใด เพราะตราบใดที่ไม่มีคนรักคุณ คุณก็ยังมีใจของคุณคอยอยู่เป็นเพื่อน ดังนั้นแล้วจงมีความสุขกับชีวิตในแบบของตัวคุณเอง จงสร้างความสุขขึ้นมาจากตัวคุณเองไม่ใช่คนอื่น และที่สำคัญจงรักตัวคุณเองให้มากๆเพราะถ้าตัวคุณเองยังไม่มีความสุขเลย แล้วคุณจะสามารถทำให้ใครมีความสุขไปพร้อมกับตัวคุณได้หร่ะครับ!!!
" คิดแง่บวก มองโลกแง่ดี แบ่งปันแนวคิด ชิวิตมีแรงจูงใจ " (ติดตามอ่านบทความใหม่ๆได้ทุกวันอาทิตย์)
วันอาทิตย์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2555
ความสุขอยู่หนใด?
วันอาทิตย์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2555
จุดหมายปลายทาง
คุณเคยสงสัยบ้างมั้ยว่าทำไมนักกรีฑาถึงต้องวิ่งเข้าเส้นชัย? คุณเคยสงสัยบ้างมั้ยว่าทำไมกีฬาฟุตบอลถึงมีเวลาแค่ 90 นาที? ใช่แล้วหร่ะครับเพราะมันคือจุดหมายปลายทางของการต่อสู้และฝ่าฟัน ชีวิตคนเราก็เหมือนกัน คนเราเกิดมาพบเจอปัญหาและอุปสรรคมากมาย ชีวิตคนเราต้องต่อสู้และดิ้นรนต่างๆนานา ต่างคนต่างก็พบเจอบททดสอบของชีวิต คนที่อยากสอบเข้ามหาลัยหรือโรงเรียนดีๆต่างก็ต้องตั้งใจอ่านหนังสือ คนที่ทำงานแล้วอยากเลื่อนตำแหน่งหรืออยากมีรายได้เยอะๆต่างก็ต้องตั้งใจทำผลงาน ในบางครั้งเราอาจจะพบเจอกับปัญหาที่ไม่คาดคิด ในบางครั้งเราอาจจะต้องผิดหวังและเสียใจ แต่ถ้าเรามุ่งมั่นให้กับจุดหมายของเราแล้วหร่ะก็ซักวันชัยชนะนั้นต้องเป็นของเรา
จะเกิดอะไรขึ้นถ้ากีฬาบาสเก็ตบอลแข่งขันกันโดยไม่มีแป้น? จะเกิดอะไรขึ้นถ้าแข่งขันตีกอล์ฟแต่ไม่มีหลุม? มันก็คงไม่ต่างจากชีวิตของเราที่ไร้ซึ่งจุดหมายและทิศทาง ไม่แปลกเลยที่ทำไมคุณเริ่มสงสัยในสิ่งที่คุณกำลังทำ ไม่แปลกเลยที่ทำไมคุณรู้สึกเหมือนเดินหลงทางเพราะคุณขาดจุดมุ่งหมาย ขาดแรงบันดาลใจ เมื่อไร้ซึ่งจุดมุ่งหมายมันก็เหมือนคุณหลงป่า ที่ไม่รู้ว่าตัวคุณจะเดินไปในทิศทางใด เมื่อคุณไม่กำหนดเส้นชัยของตัวเองมันก็เหมือนคุณใช้ชีวิตไปวันๆ นอนหลับแล้วก็ตื่นขึ้นมาใช้ชีวิตแค่ผ่านไปอีกวัน แต่ถ้าหากชีวิตของคุณมีจุดหมายมันก็เหมือนคุณกำลังเดินป่าแต่มีเข็มทิศ มันก็เหมือนเวลาคุณเจออุปสรรค ขวากหนามคอยขวางกั้นแต่คุณมีมีดดาบ คุณจะไม่กลัวและเหน็ดเหนื่อยเลย เมื่อเป้าหมายของคุณชัดเจน คุณจะไม่รู้สึกว่าคุณหลงทางเลยเมื่อคุณมุ่งมั่นที่จะก้าวไปสู่เส้นชัย แม้ในบางครั้งเส้นชัยอาจจะไกล หนทางอาจจะขรุขระ แต่นั่นมันก็คือบททดสอบจิตใจของเรา บททดสอบความมุ่งมั่นและตั้งใจจริงของเราเพราะไม่มีของล้ำค่าสิ่งใด ได้มาอย่างง่ายดาย โดยที่เราไม่ต้องออกแรงหรอกนะ!!!
เราต่างก็รู้ว่าความสำเร็จนั้นต้องแรกมาด้วยความพยายาม ต้องแลกมาด้วยความสามารถ เพราะว่าเราจะไม่ได้ในสิ่งที่เรามองหา แต่จะได้ในสิ่งที่เราคู่ควร ดังนั้นแล้วจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ทำไมนักกีฬาถึงต้องฝึกซ้อมกันอย่างหนักทุกวัน เพราะแต่ละเป้าหมายในชีวิตมันต้องใช้ทั้งแรงกายที่เข้มแข็ง เพียรพยายามและแรงใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง เพราะเส้นทางที่คุณก้าวไปจะต้องพบเจอกับปัญหาต่างๆมากมายที่เป็นเหมือนกับคู่แข่งของคุณ ต้องพบเจอกับบททดสอบมากมายที่พร้อมจะทำให้คุณยอมแพ้ได้ทุกเวลา ฉนั้นแล้วถ้าคุณไม่ฝึกฝนจิตใจให้เข้มแข็ง ถ้าคุณไม่เรียนรู้อยู่ตลอดเวลา มันก็เหมือนนักมวยที่ไม่มีความพร้อมเมื่อสู้กันคุณก็มีแต่จะโดนเขาน็อค!!!
ฉนั้นแล้วถ้าคุณมีจุดหมายที่ชัดเจนแล้วหร่ะก็ คุณก็ไม่ต้องกลัวหรือกังวลใจไปเลยในสิ่งที่มันผิดพลาดหรือล้มเหลว เพราะว่าความล้มเหลวจะสอนให้เราได้เรียนรู้และเติบโตมากขึ้น จะทำให้เราเข้มแข็งมากขึ้น เมื่อคุณมีจุดหมายที่ชัดเจนคุณจะไม่ย่อท้อต่อปัญหาโดยง่ายดาย คุณจะไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรค เพราะภาพความสำเร็จมันช่างแสนหวานและมีความสุข ดังนั้นแล้วผมก็อยากจะขอให้คุณจงมุ่งมั่นที่จะก้าวต่อไป จงมุ่งมั่นที่จะเดินไปให้ถึงจุดหมาย ให้มันรู้ไปเลยว่าความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จต้องอยู่ที่นั่น!!!
วันอังคารที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2555
เรื่องล้มเหลวของคนดัง
" ใครบ้างที่ำไม่เคยพบเจอกับอุปสรรคและปัญหาในชีวิต ใครบ้างที่การเดินของชีวิตช่างโรยด้วยกลีบกุหลาบและแสนหวาน ถ้าหากชีวิตของคุณต้องพบเจอกับปัญหาต่างๆ ถ้าหากชีวิตของคุณล้มเหลวมามากมาย จนคุณหมดเรี่ยวแรงและกำลังจะไปต่ิอ ผมก็มีเรื่องราวดีๆของคนมีชื่อเสียงมาฝากคุณ บุคคลบางท่านอาจจะพบเจอกับปัญหาและอุปสรรคในชีวิตที่มากกว่าท่านก็เป็นได้ ผมอยากจะขอฝากบทความนี้เป็นกำลังใจให้กับใครอีกหลายๆคน เป็นข้อคิดให้กับคนที่หมดไฟให้มีไฟลุกขึ้นมาอีกครั้ง "
คุณรู้หรือไม่ครับว่าบุคคลแต่ละท่านมีสิ่งใดแต่งต่างจากคุณ? คำตอบคือไม่มีเลยครับ ทุกคนมีสองมือและสองเท้าเหมือนกับคุณ มีสองตาและหนึ่งปากเหมือนกันกับคุณ แต่สิ่งที่มีไม่เหมือนกันคือความมุ่งมั่น และความพยายาม ดังนั้นแล้วผมจึงอยากจะให้คนที่ล้มอยู่ได้ลุกขึ้นมาสู้ใหม่ คนที่ท้อแท้อยู่ได้มีกำลังใจเพราะไม่มีสิ่งใดได้มาง่ายๆโดยที่เราไม่พยายาม
ขอบคุณรูปภาพจาก www.atcloud.com/stories/66065
วันอาทิตย์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2555
"ดีพอ" หรือ "พอดี"
ใครเคยรู้สึกบ้างว่าบางสิ่งที่เราทำไปนั้นมันยังไม่ดีพอสำหรับใครบางคน บางสิ่งที่เราทุ่มเทไปนั้นมันยังไม่มากพอ มันเหมือนดังว่ายิ่งเราพยายามทำให้มันดีมากขึ้นเท่าไหร่สิ่งๆนั้นก็ยิ่งหนีไปห่างไกล สิ่งที่เราได้รับกลับกลายเป็นการบั่นทอนจิตใจและกำลังใจของเราแทน หลายครั้งเราหมดกำลังใจที่จะไปต่อ เราเหน็ดเหนื่อยกับสิ่งที่เราพยายามทำลงไปเพื่อให้มันออกมาดีที่สุด จนลืมไปว่าความพอดีอยู่ที่ไหน วันนี้ผมจะมาเตือนความจำของคุณซึ่งคุณอาจจะลืมมันไปแล้วก็เป็นได้และคุณสามารถเลือกได้ว่าคุณจะเป็นคนแบบไหน ระหว่าง...
จงบินเอาเท่าที่เราจะบินไหว
ท่าที่บินไม่จำเป็นต้องเหมือนใคร
แค่บินไปให้ถึงฝัน เท่านั้นพอ
วันเสาร์ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2555
"ของขวัญ(Present)"แห่ง"ปัจจุบัน(Present)"
บ่อยครั้งที่เราคิดถึงอดีต คิดถึงคนที่เรารักและจากกันไป คิดถึงช่วงชีวิตที่มีความสุข สมหวังต่างๆนานา และได้แต่นั่งพร่ำเพ้อแล้วเสียดาย ถ้ามีโอกาสอยากย้อนเวลากลับไปแก้ไขมัน "แต่เราต่างก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้" และบ่อยครั้งที่เราได้แต่หวังให้ใครซักคนที่รู้ใจ ใครซักคนที่มีความหมายได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงชีวิต รอคอยโอกาสดีๆให้ผ่านเข้ามา "แต่เราต่างก็รู้ว่านั่นคือเรื่องของอนาคต" และวันนี้ผมก็อยากจะนำเสนอแนวคิดดีๆ หนทางที่ดี และรางวัลที่แสนล้ำค่าที่สุด ที่มีอยู่ในใจคุณทุกคน เป็นของขวัญที่ไม่ว่าวันไหนๆคุณก็สามารถให้และรับมันมาได้ นั่นก็คือ...
"ของขวัญ(Present)"แห่ง"ปัจจุบัน(Present)"
ถูกต้องแล้วครับ... ณ ปัจจุบันนี่หร่ะคือของขวัญอันล้ำค่า เพราะหลายครั้งเรากังวลใจกับอนาคตที่ยังมาไม่ถึง เราคาดหวังในอะไรหลายอย่างมากมายจนลืมไปว่าปัจจุบันเรามีอะไรอยู่บ้าง ปัจจุบันเราเดินมาไกลจากอดีตแค่ไหน เราได้พัฒนาและปรับปรุงตัวเองมากน้อยเพียงใด คนบางคนรอคอยให้เป้าหมายในชีวิตเดินมาหา แต่คุณอย่าลืมสิ!!! เป้าหมายไม่มีขา มีแต่ตัวคุณเท่านั้นที่มีขาทำไมไม่เดินเข้าไปหามันหร่ะ แทนที่จะนั่งรอคอยอนาคต พร่ำเพ้อและอ้อนวอนอย่างกับว่าจะมีใครนำมันมาให้คุณ ทำไมคุณไม่เลือกที่จะลงมือทำ ไม่เลือกที่จะก้าวเดินเพื่อให้คุณบรรลุเป้าหมายในชีวิตได้หร่ะ บ่อยคร้งที่คุณเจอกับปัญหามากมายและเหมือนว่าจะมีขวากหนามคอยขวางกั้น แต่ถ้าคุณไม่ฝ่าฟันคุณจะรู้มั้ยว่าเส้นชัยนั้นสวยงามเพียงใด ถ้าคุณไม่เริ่มก้าวเดินจะรู้ได้อย่างไรว่าเส้นชัยไกลเพียงใด เพราะฉนั้นแล้วจงใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบันเถิด เลิกทำเหมือนว่าสิ่งที่คุณหวังมันจะมาหาคุณเองซักทีเถอะ!!! และถ้าหากการก้าวเดินของคุณรู้สึกหวั่นไหว จิตใจรู้สึกอ่อนแรง โปรดจงรู้ไว้ "เมื่อมีปัญหา ปัญญาย่อมเกิด" ถ้าคุณดูภาพยนต์ผจญภัยเรื่องต่างๆคุณก็คงจะเห็นอุปสรรคมากมายกว่าที่พระเอกจะพบกับจุดหมายปลายทาง แล้วคุณหร่ะ ได้เริ่มสร้างตำนานของตัวเองแล้วหรือยัง ได้เริ่มต้นการผจญภัยของตัวคุณเองแล้วหรือยัง....
คุณเคยนึกเสียดายวัน เวลา และโอกาสดีๆในอดีตไหมครับ? ใช่แล้วหร่ะครับผมก็เคยเสียดายวันเวลาในอดีตที่เราเรามีโอกาสแต่ไม่ได้คว้าเอาไว้ แล้วคุณเคยดีใจกับเหตุการณ์ร้ายๆในอดีตที่คุณเคยผ่านมาได้มั้ยครับ? ใช่แล้วมันเป็นช่วงที่โหดสุดๆไปเลย ผมเองก็เคยเกิดความรู้สึกแบบนี้เหมือนกัน ผมจำได้ถึงตอนที่ผมทำในสิ่งที่ผมรัก แต่กลับถูกปฏิเสธ ถูกต่อต้าน และถูกตำหนิ มันทำให้ผมแย่กับตัวเองมากๆเลย ทำไมหนอ...สิ่งที่เราทำเพื่อคนที่เรารักกลับถูกเขามองว่าไม่ดี แต่ผมก็ผ่านมันมาได้และผมก็ได้ทำในสิ่งที่ผมรักสมใจ เพราะฉนั้นแล้วจงอย่าเสียดายอดีตที่ผ่านไปแล้วและอย่ายึดติดกับมัน แต่จงดีใจและเรียนรู้จากมันเพราะถ้าไม่มีอดีตที่ขมขื่น อดีตที่แสนหวานแล้วหร่ะก็มันก็คงไม่มีตัวคุณคนนี้ในปัจจุบันอย่างแน่นอน แต่สิ่งที่ผมจะบอกคุณก็คือจงอย่ายึดติดกับอดีตถึงแม้ว่าบางสิ่งในอดีตมันช่างแสนสุขและยากที่จะลืมมันไปได้ แต่คุณอย่าลืมว่ามันได้ผ่านไปแล้วและมันไม่มีวันหวนกลับมา เมื่อคุณจมอยู่กับมันๆก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมา สิ่งที่คุณเสียไปหรือไม่สมหวังก็ไม่หวนกลับมา แต่ปัจจุบันนี่สิ!!! คุณคือคุณ คุณคือคนที่นั่งอ่านอยู่ตรงนี้ ทำไมคุณไม่ทำปัจจุบันของคุณให้สมหวังขึ้นมาใหม่หร่ะ ทำไมคุณไม่แต่งเติมเรื่องราวที่ขาดหายไปขึ้นมาใหม่หร่ะ แทนที่จะเสียใจและจมอยู่กับมันคุณสามารถเลือกได้ว่าจะเป็น...กระต่ายที่นอนรอหรือเป็นเต่าที่เข้าเส้นชัย
ทั้งหมดนี้มันก็คือของขวัญของคุณ ของคุณเท่านั้นและมันขึ้นอยู่ที่ว่าคุณจะัเลือกเปิดมาเพื่อพบเจอกับอะไรในกล่องของขวัญนี้ จะเปิดมาเจออนาคตที่เพียงแค่รอให้เป้าหมายเดินมาหา หรือเปิดมาเจออดีตที่คุณได้ผ่านเลยมันมาแล้ว แต่ยังยึดติดกับมันจนคุณไม่ยอมไหนซักที หรือ!!! จะเปิดมาแล้วพบกับปัจจุบันๆที่คุณเลือกลิขิตชีวิตตัวเองได้ ปัจจุบันที่คุณเลือกได้ว่าจะใส่ท่วงทำนองอะไรลงไปในจังหวะชีวิตของคุณเอง ปัจจุบันที่คุณเลือกได้ว่าควรจะปล่อยวางอดีตแล้วเริ่มต้นใหม่ได้ซักที และทั้งหมดนี้เป็นของขวัญและเป็นรางวัล แด่ทุกคนที่มีอดีตเป็นพื้นหลัง ปัจจุบันคือที่มั่น และอนาคตคือฟ้ากว้าง
Who Am I ?
ถ้าหากคุณไม่ว่าอะไร และสามารถเปิดใจดวงน้อยๆรับผมเข้าไป ให้เราได้รู้จักกันให้เราได้แบ่งปันทั้งความทุกข์และความสุข แต่ถ้าหากคุณไม่ต้องการและรู้สึกว่ารอบข้างคุณช่างรายล้อมด้วยความสุขก็ให้ลืมผมไปซะ ทำเหมือนกับว่าผมเป็นเพียงแค่ลมที่พัดเข้ามาในชีวิตคุณ ผมไม่ได้ต้องการเป็นอากาศที่ขาดแล้วจะตาย แต่ผมอยากให้คุณรู้ไว้ว่ายามใดที่คุณอ่อนแอ ท้อแท้ และรู้สึกว่าตัวเองอยู่คนเดียวจงจำไว้เสมอว่าจะมีผมเป็ลมพัดใจคุณ
ยินดีที่ได้รู้จัก Read More......
ที่มาของ Blog
ถ้าคุณยังไม่รุ็ว่าวันเวลาผ่าน ไปไวแค่ไหน? คุณก็แค่ลองมองย้อนกลับไปในอดีตบางเหตุการณ์ก็เหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน บางเหตุการณ์เหมือนจะลืมเลือนไปแล้ว แต่นั่นก็เป็นเพียงอดีต อดีตที่ผ่านไปไม่สามารถหวนกลับมา อดีตที่ทั้งทุกข์และสุข ทั้งอยากลืมและอยากจำ ผมยังจำได้ถึงครั้งนึงที่ผมได้มีช่วงเวลาที่แสนสุขกับเพื่อนๆ ได้กลายเป็นยอดมนุษย์ที่ปราบเหล่าร้าย ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้นก็เหมือนเกิดขึ้นไม่นานและผมก็ยอมรับว่าอยากกลับไป เป็นเด็กอีกครั้ง กลับไปเป็นวัยที่มีแต่ความสนุกสนานและไร้ซึ่งกังวล แต่มันก็เป็นไปไม่ได้ เรายังคงเติบโตและก้าวไปข้างหน้าทุกวัน ถ้าวันนี้ไม่ลงมือทำอะไรพรุ่งนี้ก็จะผ่านเข้ามา นี่คือสิ่งที่ผมอยากจะบอกเพื่อนทุกคน ว่าเวลายุติธรรมและไม่เลือกเข้าข้างใคร เพราะฉนั้นแล้วถ้ามีสิ่งใดอยากจะทำแต่ยังไม่กล้า แต่มีคนที่ชอบแต่ยังกลัวที่จะทำความรู้จัก มีไอเดียสุดยอดแต่ยังไม่ทำ วันเวลาก็จะผ่านเลยไป ผมจึงต้องช่วยคุณจับมือกับคุณขยับความกล้า พิชิตความกลัวและลุกขึ้นมาเอาชนะมันให้ได้
เป็นเรื่องธรรมดาที่เมื่อคุณ ลงมือทำบางอย่างคุณจะต้องพบ เจอกับอุปสรรค ในบางครั้งมันก็ทำให้คุณท้อแท้ใจและอยากจะล้มเลิกสิ่งที่ทำอยู่ จนบางครั้งทำให้คุณเสียน้ำตารู้สึกล้มเหลวในชีวิต แต่คุณจงอย่าลืม อย่าลืมตัวตนของคุณว่าคุณเป็นใครห้าวหาญเพียงใด คุณรู้หรือไม่แค่คุณกล้าที่จะลงมือทำคุณก็มีชัยชนะมากกว่าคนที่เพียงแค่คิด อย่างเดียวแล้ว ฉนั้นถ้าคุณท้อแท้จงหยัดยืน ถ้าคุณล้มเหลวจงลุกขึ้นมาใหม่ ไม่มีผู้ชนะคนใดยอมล้มเลิกในเป้าหมายของตัวเองง่ายๆหรอกนะ และถ้าชีวิตนี้ล้มเหลวมาโดยตลอด ชีวิตนี้สินหวังและตายซาก ผมก็มีเรื่องเล่าเรื่องนึง เป็นเรื่องเล่าของคนๆนึงและคนๆนั้นก็คือตัวคุณ!!!
คุณยังจำตอนที่คุณเกิดมาได้หรือไม่? คุณคงจำได้หรือไม่ก็ลืมมันไปแล้ว และสิ่งที่ผมจะบอกคุณถึงชัยชนะึครั้งแรกในชีวิตของคุณก็คือ "การก้าวเดิน" คงไม่มีทารกคนไหนเกิดมาแล้วเดินได้เลยหรอกนะ กว่าคุณจะเดินได้คุณต้องรวบรวมความกล้าหาญมากแค่ไหน ต้องพยายามยืนหยัดมากแค่ไหน บ่อยครั้งที่คุณล้มลงแต่คุณก็ไม่ละความพยายาม คุณไม่ละความพยายามจนกระทั่งคุณยืนขึ้นมาได้ หลังจากนั้นคุณก็เริ่มก้าวเดิน ก้าวแรกอาจพลาดล้มลงบางครั้งร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดแต่คุณก็ไม่ยอมแพ้ยังคง รวบรวมความกล้ายืนขึ้นอีกครั้งแล้วก็เริ่มก้าวเดินใหม่และล้มลง ลุกขึ้นยืนก้าวเดินและล้มลง จนกระทั่งคุณลุกขึ้นยืนแล้วเริ่มก้าวเดินได้คล่องแคล่วและง่ายด่ายมากขึ้น และนั่นก็คือชัยชนะครั้งแรกของคุณ จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณล้มลงและไม่คิดที่จะลุกขึ้นแล้วก้าวเดินต่อ ผมคิดว่าตอนนี้คุณคงจะคลานไปไหนมาไหนแทนการเดินเป็นแน่แท้
ฉนั้นแล้วผมจึงเขียน Blog นี้ขึ้นมา เขียนขึ้นมาให้คุณรู้คุณค่าของชัยชนะและคุณค่าของตัวคุณเอง ให้คุณรู้ว่าอุปสรรคมีไว้ฝ่าฟัน ให้คนที่มีความฝันยืนหยัดต่อสู้เพื่อให้ได้มันมาครอง และอยากให้ทุกคนรู้ไว้ว่าสิ่งใดได้มาง่ายดายก็ย่อมหมดค่าไปอย่างง่ายดาย เพราะฉนั้นแล้วจงลุกขึ้นเถิด จงยืนหยัดเถิด จงกล้าที่จะหยิบดาบแห่งชัยชนะ สวมเกราะแห่งความมุ่งมั่น และโล่แห่งศรัทธาฟันฝ่าอุปสรรคและปัญหาในชีวิตเถิด แล้วชัยชนะที่คู่ควรจะเป็นของคุณ